swanclinicmedical - swanclinicmedical

รู้ให้ชัด เข้าใจให้จริง

เสริมหน้าอกอย่างไรให้สวยได้ไม่ต้องแก้เยอะ

การผ่าตัดเสริมหน้าอก ถือเป็นการศัลยกรรมผ่าตัดเคสใหญ่ ดังนั้นแล้ว ผู้ที่ต้องการเสริมหน้าอกนั้น มีความจำเป็นที่จะต้องศึกษาและเข้าใจถึงการเสริมหน้าอกให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจเสริมหน้าอก อีกทั้งยังต้องเลือก คลินิกที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สามารถให้คำแนะนำเราได้ เพื่อให้การเสริมหน้าอกเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่เกิดอันตราย ได้ผลลัพธ์ตรงตามความต้องการ ดังนั้นวันนี้ Swan Clinic ของเราจะมาบอกข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการเสริมหน้าอกที่เป็นประโยชน์และควรรู้ให้ได้ทราบกัน

การผ่าตัดเสริมหน้าอกคือ ?

การผ่าตัดเสริมหน้าอก (Breast augmentation) คือ เป็นวิธีการผ่าตัดที่ทำได้โดยใส่วัสดุสำหรับเสริมหน้าอกเข้าไปที่ใต้หน้าอก ให้ได้ผลลัพธ์ของขนาดหน้าอกที่ใหญ่ขึ้น รูปร่างของหน้าอกที่สวยงามและเท่ากัน รวมถึงช่องอกที่ชัดเจนกว่าเดิม หรือแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับรูปร่างของหน้าอก เช่น เนินหน้าอกหายจากการให้นมบุตร , หน้าอกหย่อนยาน , หน้าอกเล็กตั้งแต่เกิด หรืออื่นๆอีกมากมาย ทำให้มีความมั่นใจในรูปร่างของตัวเองเพิ่มมากขึ้น

ใครบ้างที่ไม่เหมาะหรือไม่ควรเสริมหน้าอก?

ผู้ที่มีอาการติดเชื้อบริเวณใด ๆ ของร่างกาย
ผู้ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งหรือเคยมีประวัติป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านมที่ยังไม่ได้รับการรักษา
หญิงที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

ทั้ง 3 กลุ่มนี้ไม่แนะนำให้เสริมหน้าอกเนื่องจากกระบวนการผ่าตัดที่ใช้อาจมีผลต่อการรักษาอาการติดเชื้อหรือการเปลี่ยนแปลงของระบบทางเดินน้ำเหลืองและส่งผลต่อระยะเวลาในการพักฟื้นอีกด้วย

หน้าอกของเราเป็นแบบไหน เข้าใจให้ดี มีผลต่อการเสริมหน้าอก

เราต้องเข้าใจก่อนว่า หน้าอกของเราเป็นรูปทรงแบบใด เพราะการเลือกซิลิโคนหน้าอก ให้เข้ากับรูปหน้าอกตัวเอง จะช่วยให้หน้าอกดูสวยงาม ธรรมชาติ และเข้ากับสรีระโดยรวมที่สุด
หน้าอกเลมอน : ฐานอกกว้าง มีความพุ่งชันของหน้าอกน้อย
หน้าอกเชอร์รี่ : ลักษณะค่อนข้างแบน มีขนาดเล็ก ฐานหน้าอกไม่ชัด
หน้าอกลูกแพร : หน้าอกดูหย่อนคล้อยมาก เพราะ เนินอกไม่มีกล้ามเนื้อ และเนื้ออกมักจะอยู่ที่ฐานนม
หน้าอกสัปปะรด : ฐานหน้าอกเล็ก หน้าอกพุ่งมาก เนื้อเนินหน้าอกจะขยายออกด้านข้างมากทำให้ดูหน้าอกใหญ่
หน้าอกสตรอว์เบอร์รี่ : หน้าอกจะหย่อนคล้อยเล็กน้อย ไม่ค่อยมีเนื้อหน้าอก
หน้าอกแอปเปิ้ล : หน้าอกจะเหมือนรูปครึ่งวงกลม เนินหน้าอกจะพุ่งชันมาก

รูปแบบของการเสริมหน้าอก มีทั้งหมดกี่แบบ?

การผ่าตัดเสริมหน้าอกแบ่งออกเป็น 3 แบบ

การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน : สามารถเลือกทรงได้ ทั้งแบบทรงกลมหรือทรงหยดน้ำ เหมาะกับคนที่ต้องการเพิ่มขนาด ข้อดีคือ อกใหญ่ขึ้น เห็นได้ชัดเจน ข้อเสียคืออาจดูไม่เป็นธรรมชาติ
การเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง : ดูดไขมันส่วนเกินออกมา เพื่อนำมาเติมใส่บริเวณหน้าอก ช่วยให้เนินหน้าอกดูเต็มสวย เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบเสริมแบบใช้ซิลิโคน ข้อดี แผลเล็กมาก ข้อเสีย ไม่สามารถกำหนดขนาดได้เพราะขึ้นอยู่กับฐานหน้าอก
การเสริมหน้าอกแบบไฮบริด (ซิลิโคน+ฉีดไขมัน) : นำเอาวิธีการเสริมแบบซิลิโคนมาช่วยให้ให้หน้าอกดูใหญ่ขึ้น และนำเอาวิธีการเสริมแบบใช้ไขมันตัวเองมาทำให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ทำให้หน้าอกที่ออกมา มีหน้าอกที่ใหญ่ขึ้น ดูนุ่มนวล เป็นธรรมชาติ ข้อดี หน้าอกใหญ่ดูเป็นธรรมชาติมาก ข้อเสีย การทำมีราคาที่สูง

ทรงของซิลิโคนเสริมหน้าอกมีแบบไหนบ้าง?

ซิลิโคนหน้าอกจะมีอยู่ 2 ทรง คือทรงกลม และ ทรงหยดน้ำ
ซิลิโคนหน้าอกทรงกลม (Round Breast Implant) ถูกออกแบบมาเพื่อเติมเต็มหน้าอกให้ใหญ่ นูน กลม เหมาะกับคน ที่ต้องการอัพทรงใหญ่หลายไซซ์ มีเนื้อหน้าอกเยอะ มีฐานหน้าอกที่กว้าง คนที่หน้าอกหย่อนคล้อย หรือคุณแม่หลังคลอด ที่ให้นมลูก แล้วเนินอกหายเป็นต้น แต่ข้อเสียของซิลิโคนหน้าอกทรงกลมคือ ถ้าทำหน้าอกใหญ่มากเกินไป อาจจะเห็นขอบ และดูไม่เป็นธรรมชาติได้
ซิลิโคนหน้าอกทรงหยดน้ำ (Teardrop Breast Implant) เหมาะกับคนที่ต้องการเสริมหน้าอกแบบธรรมชาติ ทรงไม่ใหญ่ มีเนื้อหน้าอกน้อย และมีความหย่อนคล้อยเล็กน้อย หลังทำหน้าอกจะคล้อยลงเหมือนทรงหน้าอกธรรมชาติ

ผิวของซิลิโคนเสริมหน้าอกมีแบบไหนบ้าง

ผิวภายนอกซิลิโคน มี 3 ชนิด ได้แก่
1. ซิลิโคนแบบผิวหยาบหรือผิวทราย: นิ่มกว่าแบบผิวเรียบ เพราะสามารถลดการเกิดพังผืดได้ ไม่ต้องนวดหน้าอกบ่อย
2. ซิลิโคนแบบผิวเรียบ : มีโอกาสเกิดพังผืดได้มากกว่าผิวอื่น ๆ และต้องอาศัยการนวดหน้าอกบ่อย ๆ เพื่อให้หน้าอกมีความนิ่ม และเป็นธรรมชาติ แต่ซิลิโคนผิวเรียบจะมีโอกาสเกิดริ้วน้อยกว่าซิลิโคนผิวทราย
3. ซิลิโคนแบบผิวกำมะหยี่ : จะเป็นกึ่งเรียบกึ่งทราย เป็นนวัตกรรมใหม่ของ Motiva มีความนิ่ม และเป็นธรรมชาติมาก โอกาสที่จะเกิดพังผืดน้อย แถมไม่จำเป็นต้องนวดหน้าอกบ่อย ๆ ด้วย

เลือกซิลิโคนอย่างไรให้เหมาะกับตัวเอง?
การเลือกซิลิโคนที่เหมาะสมกับตัวเราขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง โดยศัลยแพทย์จะทำการประเมิณใช้ข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์และแนะนำในการเลือกชนิดและขนาดซิลิโคนที่เหมาะสมกับตัวผู้ใช้ ได้แก่

ขนาดความสูงและความกว้างของลำตัว
ลักษณะของเนื้อหน้าอกเดิม เช่น ความหย่อนคล้อย ความหนาของผิวหนัง และไขมันบริเวณหน้าอก

ยี่ห้อซิลิโคนที่ได้รับความนิยมในการเสริมหน้าอกมีอะไรบ้าง?

ซิลิโคน Mentor

ซิลิโคน Motiva

เทคนิคการเสริมหน้าอก แบบไหนจุดไหนที่เหมาะกับเรา

เสริมนมเหนือกล้ามเนื้อ : เหมาะกับคนที่มีเนื้อหน้าอกเยอะ ผลข้างเคียงน้อย บาดเจ็บน้อย ผ่าตัดง่าย ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน แต่ก็มีโอกาสที่จะเกิดพังผืด หรือปัญหานมแฝดมากกว่า หน้าอกอาจมีอาการแข็งหรือผิดรูปได้ง่าย ไม่เหมาะกับคนที่เนื้อหน้าอกน้อยหรือคนที่อยากเสริมหน้าอกแบบใหญ่ๆ เพราะอาจทำให้เห็นขอบซิลิโคนได้ และไม่เหมาะกับคนกำลังจะตั้งครรภ์ หรือมีแผนว่าจะตั้งครรภ์เพราะอาจทำให้น้ำนมมีสารปนเปื้อนได้
เสริมนมใต้กล้ามเนื้อ : เหมาะกับคนที่เนื้อหน้าอกน้อย ซิลิโคนจะช่วยดันให้หน้าอกดูเด้งเต่งตึง ไม่หย่อน หน้าอกจะดูกระชับ ดูเป็นธรรมชาติ ผลข้างเคียงมากกว่า มีอาการเจ็บมากกว่า ใช้เวลาผ่าตัดนาน และใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นนานเช่นกัน และเทคนิคนี้ต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่สูง
เสริมหน้าอกเทคนิค Dual Plane : เป็นการเสริมหน้าอกระหว่างกล้ามเนื้อ เป็นเทคนิคที่รวมเอาข้อดีทั้งแบบเหนือกล้ามเนื้อและใต้กล้ามเนื้อไว้ ทำให้ไม่เห็นขอบซิลิโคนบริเวณเนินหน้าอก เป็นเทคนิคที่กำลังเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน ทำออกมาแล้วสวย โค้ง ดูเป็นธรรมชาติ

แผลที่เกิดจากการทำหน้าอกมีจุดไหนบ้าง ระยะเวลาพักฟื้นนานไหม?

แผลทำนมซิลิโคนจะมีอยู่ 3 บริเวณคือ ใต้ราวนม, รักแร้ และรอบปานนม

แผลใต้ราวนม : เป็นจุดที่นิยมมากที่สุด เพราะเสียเลือดน้อย ระยะเวลาฟื้นตัวเร็ว เป็นแผลผ่าตัดหลักในกรณีที่ต้องการเปลี่ยนซิลิโคนหรือแก้ทรง
แผลบริเวณใต้รักแร้ : เป็นที่นิยมไม่แพ้กับใต้ราวนม เป็นจุดที่มีปัญหาแผลคีย์รอยมากที่สุด แผลหายสนิทไม่ทิ้งรอยแผล แต่แผลจะเจ็บกว่า และ ใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัวนานกว่า
แผลบริเวณปานนม : ไม่ค่อยได้รับความนิยม เพราะมีข้อจำกัดเรื่องขนาดของซิลิโคนที่ใส่ เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการเสริมหน้าอกให้ใหญ่มาก หากเสริมแบบเติมไขมันจะมีแผลที่เล็กมาก

เตรียมตัวเองอย่างไร ก่อน-หลัง ทำหน้าอก และภาวะแทรกซ้อนที่เกิดหลังผ่าตัด

ทำไมเสริมหน้าอกที่ Swan Clinic ถึงครองใจใครหลายคน ?

1. ดูแลโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญ ผ่านเคสการผ่าตัดเสริมหน้าอกมาแล้วกว่าหลายร้อยเคส

2. ใช้ห้องผ่าตัดและอุปกรณ์ผ่าตัดจากทางโรงพยาบาลเอกชน เพื่อให้คนไข้มั่นใจได้ในมาตรฐานและความปลอดภัยของสถานที่และอุปกรณ์

3. มีห้องพักฟื้นรองรับหลังผ่าตัด พร้อมด้วยพยาบาลที่คอยดูแลหลังผ่าตัดตลอด 24 ชั่วโมง

4. หน้าอกหลังการผ่าตัด นิ่ม สวย ดูเป็นธรรมชาติ ไม่มีขอบล้น หรือ ปัญหาซิลิโคนพลิก แผลเล็ก ไม่ต้องตัดไหม ใช้ระยะเวลาพักฟื้นน้อย

Customer Review